บริการดูแลผู้สูงอายุที่ไว้ใจได้ทั่วไทย 2025

ตลาดดูแลผู้สูงอายุเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมาตรฐานสูงและบริการออนไลน์ทันสมัย ช่วยให้เลือกบริการได้ตรงใจ พร้อมโอกาสรายได้ดีสำหรับคนสนใจงานดูแลอย่างมืออาชีพในปีนี้

ความสำคัญของบริการดูแลผู้สูงอายุในปี 2025

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ โดยข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุในปี 2567 ระบุว่ามีผู้สูงอายุมากกว่า 13.4 ล้านคน หรือประมาณ 20.69% ของประชากร ความต้องการบริการด้านสุขภาพและการดูแลจึงเพิ่มขึ้นครอบคลุมหลายรูปแบบ ตั้งแต่การดูแลที่บ้านไปจนถึงศูนย์พักและดูแลแบบครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาคุณภาพบริการให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เช่น โครงการมอบรางวัลผู้ประกอบการธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพในปี 2567 เพื่อส่งเสริมและยกระดับธุรกิจในภาคส่วนนี้

ปัจจุบัน การดูแลผู้สูงอายุยังรวมถึงการบริหารจัดการโรคเรื้อรังและการดูแลแบบเฉพาะโรค เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งผู้ดูแลจะได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทาง เพื่อสามารถตอบสนองต่อสภาวะสุขภาพของผู้สูงอายุได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการใส่ใจในเรื่องโภชนาการและการจัดเมนูอาหารที่เหมาะสมกับผู้สูงวัย รวมถึงการจัดกิจกรรมสันทนาการที่ช่วยส่งเสริมความสุขและลดความเหงา

มาตรฐานและความเชื่อถือได้ของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

การเลือกใช้บริการในปี 2025 ควรพิจารณาสถานประกอบการที่มีการรับรองมาตรฐานและได้รางวัลที่ยืนยันคุณภาพ อย่างเช่น

  • รางวัล Senior Care Business Quality Award 2024, Excellent Senior Service Award 2024 และ Best CEO in Senior Healthcare Business 2024
  • ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015
  • มีทีมแพทย์ พยาบาล และผู้ดูแลที่มีความเชี่ยวชาญและปฏิบัติงานตามมาตรฐาน
  • ตัวอย่างสถานบริการที่ได้รับการยอมรับ เช่น PB Nursing Home, Somtawin Nursing Home, Diamond Life Nursing Center, MyNurz, และบ้านณัฐจรรยา เนอร์สซิ่งโฮม

ด้วยมาตรฐานเหล่านี้ การดูแลเน้นทั้งการฟื้นฟูสุขภาพและการดูแลสภาพจิตใจอย่างครบถ้วน

นอกจากนี้ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ได้มาตรฐานมักจะมีการประเมินสุขภาพและปรับแผนการดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุแต่ละคน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้หลายครอบครัวมั่นใจในการเลือกใช้บริการ และช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่เป็นมิตรและอบอุ่น

ช่องทางการเข้าถึงบริการดูแลผู้สูงอายุในยุคดิจิทัล

ในปี 2025 มีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อมต่อผู้สูงอายุกับบริการดูแล เช่น MyNurz ซึ่งให้บริการครอบคลุมตั้งแต่พยาบาล, ผู้ช่วยพยาบาล, นักกายภาพบำบัด, นักกิจกรรมบำบัด และบริการสนับสนุนทางการแพทย์ที่บ้านผู้สูงอายุ

  • MyNurz มีบริการทั้งรูปแบบ walk-in, on-demand และบริการรายวัน
  • รองรับการสื่อสารทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุกลุ่มหลากหลาย
  • มาตรฐานการให้บริการได้รับการยอมรับในวงกว้าง
  • ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจองบริการและดูแลสุขภาพที่บ้าน

บริการลักษณะนี้เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุและครอบครัวเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการได้อย่างเหมาะสม

นอกเหนือจาก MyNurz ยังมีแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่สนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุ เช่น ระบบติดตามสุขภาพแบบเรียลไทม์ผ่านอุปกรณ์ IoT การแจ้งเตือนการทานยา หรือการเชื่อมต่อกับแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่คนเดียวหรือในพื้นที่ห่างไกลได้มากขึ้น

รายได้และโอกาสในสายงานดูแลผู้สูงอายุ

สายงานดูแลผู้สูงอายุในปี 2025 เป็นอาชีพที่มีความต้องการสูง และอัตราค่าตอบแทนขึ้นอยู่กับประสบการณ์และรูปแบบงาน โดย

  • รายได้เฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 25,000 ถึง 48,000 บาทต่อเดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถและตำแหน่งงาน
  • มีโอกาสทำงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้วีซ่า Non-Immigrant O-A สำหรับชาวต่างชาติที่สูงวัยเดินทางมายังประเทศไทย
  • การพัฒนาทางทักษะ การเรียนภาษา และการบริหารจัดการ เป็นส่วนสำคัญในการตอบสนองมาตรฐานระดับสากล
  • อาชีพนี้ยังสามารถเติบโตไปสู่ตำแหน่งผู้บริหาร หรือเจ้าของธุรกิจในอนาคตได้

ผู้ที่สนใจทำงานในสายอาชีพนี้ควรรับทราบว่าโอกาสและรายได้จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสามารถเฉพาะบุคคล

นอกจากนี้ การเสริมทักษะเช่น การเรียนหลักสูตรอบรมด้านการดูแลผู้สูงอายุเฉพาะทาง หรือการพัฒนาทักษะสื่อสารภาษาต่างประเทศ จะช่วยเพิ่มโอกาสทางรายได้และตำแหน่งที่สูงขึ้นได้มากขึ้นในปี 2025 นี้ รวมทั้งธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่มีระบบบริหารงานทันสมัยยังให้โอกาสด้านสวัสดิการและโบนัสที่ช่วยเพิ่มรายรับให้กับผู้ดูแลอีกด้วย

ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อต้องการใช้บริการดูแลผู้สูงอายุ

เพื่อให้ได้บริการที่เหมาะสมและปลอดภัย ควรพิจารณาประเด็นหลักดังนี้

  • ความน่าเชื่อถือของสถานบริการ: เลือกสถานที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและมีชื่อเสียงชัดเจน รวมถึงรางวัลคุณภาพที่ผ่านการตรวจสอบ
  • คุณภาพของทีมงานดูแล: ผู้ดูแลควรมีความรู้ ความชำนาญ และมีความเอาใจใส่อย่างมืออาชีพ
  • บริการที่ครบวงจร: รวมถึงการดูแลสุขภาพกายและจิตใจ การฟื้นฟูสภาพร่างกาย และการให้คำปรึกษาทางการแพทย์เมื่อจำเป็น
  • ความสะดวกและตอบโจทย์เฉพาะบุคคล: เลือกบริการที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพร่างกายของผู้สูงวัย
  • เทคโนโลยีและนวัตกรรม: บางศูนย์ที่ใช้เทคโนโลยี เช่น AI วิเคราะห์สุขภาพ หรือ 3D Analytics อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลได้ดีขึ้น
  • ค่าใช้จ่าย: ราคาบริการดูแลผู้สูงอายุมีช่วงตั้งแต่ประมาณ 25,000 ถึง 48,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประเภทและระดับการดูแล

แนะนำให้ผู้ใช้บริการหารีวิวและสอบถามข้อมูลจากคนที่เคยใช้บริการจริง รวมถึงเข้าชมสถานที่ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สูงอายุจะได้รับความดูแลที่เหมาะสมและเกิดความพึงพอใจสูงสุด นอกจากนี้ การตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์การแพทย์และระบบความปลอดภัยภายในศูนย์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

แนวโน้มและการเติบโตของตลาดบริการดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย

ในปี 2025 ตลาดบริการดูแลผู้สูงอายุเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นและความต้องการบริการที่ได้มาตรฐานสูง นโยบายของภาครัฐสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานบริการ รวมถึงส่งเสริมกิจกรรมและรางวัลต่างๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

  • ปัจจุบันมีธุรกิจด้านนี้จดทะเบียนและให้บริการมากกว่า 700 แห่ง ทั้งศูนย์พักผู้สูงอายุและบริการดูแลที่บ้าน
  • การร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางบริการดูแลผู้สูงอายุของภูมิภาคเอเชีย
  • การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ช่วยให้บริการมีคุณภาพตรงตามความต้องการผู้สูงอายุได้ดียิ่งขึ้น
  • ตลาดเปิดรับแรงงานที่มีทักษะในงานดูแลผู้สูงอายุ พร้อมโอกาสรายได้ที่เปลี่ยนแปลงตามตลาดและความเชี่ยวชาญ

โดยในปี 2025 นี้ เรายังเห็นการลงทุนมากขึ้นในด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี เช่น หุ่นยนต์ช่วยดูแลผู้สูงอายุ แอพพลิเคชั่นเพื่อสุขภาพ และระบบบริการแบบ Personalized Care ที่ออกแบบให้เหมาะกับแต่ละบุคคลมากขึ้น ซึ่งล้วนแต่ช่วยยกระดับประสบการณ์การดูแลและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โอกาสและนวัตกรรมเฉพาะในตลาดดูแลผู้สูงอายุต่างชาติและ Wellness Trend

หนึ่งในเทรนด์สำคัญของบริการดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยปี 2025 คือการเปิดรับและส่งเสริมตลาดผู้สูงอายุต่างชาติที่เดินทางเข้ามาใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายในไทยภายใต้ระบบวีซ่าเกษียณอายุ (Non-Immigrant O-A Visa) ซึ่งช่วยดึงดูดชาวต่างประเทศอายุ 50 ปีขึ้นไปให้เข้ามาใช้บริการดูแลและพักอาศัยที่เมืองไทย ด้วยราคาค่าบริการที่เหมาะสม ควบคู่กับสภาพอากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นอกจากนี้ ผู้ให้บริการหลายส่วนยังมีการพัฒนาบริการเฉพาะทางเพื่อรองรับความต้องการระดับสูงของผู้สูงอายุต่างชาติ เช่น การจัดโปรแกรมดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล (Personalized Wellness Program) ที่รวมกิจกรรมฟื้นฟูสุขภาพทางกายและจิตใจ เช่น โยคะ, สมาธิ และอาหารโภชนาการพิเศษ พร้อมแปลภาษาและบริการดูแลแบบ VIP ที่ตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้าต่างประเทศได้อย่างครบวงจร

อีกหนึ่งส่วนที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือการเติบโตของธุรกิจ Wellness ซึ่งเป็นธุรกิจเพื่อสุขภาพเชิงองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยเจาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ธุรกิจ Wellness ในไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น ศูนย์สปา, คลินิกกายภาพบำบัด, โปรแกรมโภชนาการ และกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตใจ ผู้ให้บริการในกลุ่มนี้ยังเริ่มใช้เทคโนโลยีช่วยติดตามผลและปรับโปรแกรมให้เหมาะสมตามข้อมูลสุขภาพจริง เช่น การใช้แอปพลิเคชันติดตามการนอนหลับ ความเครียด และพฤติกรรมการออกกำลังกาย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืนในระยะยาว

ดังนั้น ในปี 2025 ตลาดบริการดูแลผู้สูงอายุในไทยจึงไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการพื้นฐาน แต่ยังเติบโตพร้อมกับนวัตกรรมและโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อดึงดูดทั้งกลุ่มผู้ใช้บริการภายในประเทศและผู้สูงอายุต่างชาติที่มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญและยังช่วยสร้างรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในปี 2025 การเข้าถึงบริการดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยมีทางเลือกที่สะดวกและหลากหลายขึ้น ได้แก่ ศูนย์พักดูแลที่ได้รับการรับรองและมีรางวัลยืนยันคุณภาพ รวมถึงอาชีพในสายงานดูแลผู้สูงอายุที่มีตลาดกำลังขยายตัวและให้รายได้ที่น่าสนใจ พร้อมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเลือกใช้บริการอย่างเหมาะสม

การเลือกใช้บริการควรพิจารณาจากสถานประกอบการที่ได้รับการรับรอง มีทีมงานมืออาชีพ และตอบสนองต่อความต้องการของผู้สูงอายุอย่างตรงจุด รวมถึงติดตามนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ในขณะเดียวกันสำหรับผู้ที่สนใจในสายงานดูแลผู้สูงอายุ งานนี้นับเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการพัฒนาทักษะและเติบโตในตลาดที่กำลังขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่มีเครื่องมือและแพลตฟอร์มช่วยสนับสนุนการทำงานและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

Sources

การยกเว้นความรับผิดชอบ: เนื้อหาทั้งหมด รวมถึงข้อความ กราฟิก รูปภาพ และข้อมูลที่มีอยู่ในหรือสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ข้อมูลและวัสดุที่มีอยู่ในหน้านี้ รวมถึงข้อกำหนด เงื่อนไขและคำอธิบายที่ปรากฏอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า.