ข้อควรรู้ เลือกประกันสุขภาพผู้สูงอายุปี 2025 คุ้มครองโรคประจำตัว ครบ จบ ในแผนเดียว
รู้หรือไม่? ทุกวันนี้ประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุมีความยืดหยุ่นมากขึ้น รับสมัครได้ถึงอายุ 80–90 ปี โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ และยังครอบคลุมโรคเรื้อรังหรือโรคประจำตัวอย่างครบถ้วน เลือกแผนที่เหมาะสมกับตัวเองได้ง่ายกว่าเดิม แค่เปรียบเทียบข้อมูลให้ครบก่อนสมัคร ก็สามารถวางแผนความคุ้มครองได้อย่างมั่นใจ
ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ให้บริการประกันสุขภาพผู้สูงอายุในไทยปี 2025
บริษัทประกันสุขภาพที่ได้รับความนิยมและมีความน่าเชื่อถือสำหรับผู้สูงอายุในไทยประกอบด้วย
- Allianz Ayudhya
- กรุงไทย-แอกซ่า
- เมืองไทยประกันชีวิต
- AIA (แผน AIA SENIOR HAPPY)
- Cigna
- Prudential
- ไทยประกันชีวิต
- SCB Life
- กรุงเทพประกันชีวิต
- Ocean Life
บริษัทเหล่านี้นำเสนอแผนประกันสำหรับผู้สูงอายุที่ตอบโจทย์ทั้งผู้มีโรคประจำตัวและผู้ที่สุขภาพดี โดยเงื่อนไข ความครอบคลุม และบริการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท ควรตรวจสอบข้อเสนอพิเศษหรือโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลาด้วย เพราะอาจส่งผลต่อราคาหรือสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ความคุ้มครองเฉพาะโรคร้ายแรงในราคาพิเศษ หรือโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปีฟรีในบางแผน
ลักษณะสำคัญของประกันสุขภาพผู้สูงอายุในปี 2025
- อายุรับประกันที่ขยายเพิ่มขึ้น: หลายบริษัทเปิดรับสมัครถึงอายุ 70 ปี และบางแห่งขยายถึง 80-90 ปี (ตัวอย่างเช่น AIA SENIOR HAPPY รับสมัครช่วงอายุ 50-70 ปี และคุ้มครองต่อเนื่องจนถึง 90 ปี) ทำให้ผู้สูงอายุที่ต้องการคุ้มครองแต่ยังไม่มีประกันสามารถสมัครได้แม้ในช่วงอายุมากกว่าปีที่แล้ว
- ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพในบางแผน: แผนประกันสุขภาพหลายผลิตภัณฑ์ เช่น AIA SENIOR HAPPY มีเงื่อนไข ““ไม่ต้องตรวจสุขภาพ”” และ ““ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ”” โปรดตรวจสอบรายละเอียดแต่ละบริษัทอีกครั้ง ทั้งนี้ แผนส่วนใหญ่จะมีขั้นตอนการคัดกรองโรคประจำตัวที่ใช้เพียงการสอบถามสุขภาพเบื้องต้น เพื่อให้ง่ายต่อการสมัคร เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการความสะดวก
- มีความคุ้มครองโรคประจำตัวในบางผลิตภัณฑ์: เทรนด์ในปี 2025 ประกันหลายแห่งเสนอแผนที่มีความคุ้มครองโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ ไต และมะเร็ง ซึ่งแต่ละบริษัทจะกำหนดเงื่อนไขการคัดกรองและความคุ้มครองแตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลหรือสอบถามบริษัทโดยตรง เช่น บางแผนสามารถรับเคลมค่ารักษาโรคเดิม หลังจากพ้นช่วง waiting period หรือบางแผนจำกัดเพียงบางโรคเท่านั้น
- เบี้ยคงที่และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม: หลายแผนมีเบี้ยคงที่ทุกปี (Premium Level) บางแผนมีสิทธิ์การลดหย่อนภาษีและอาจมีมูลค่าเวนคืนตามประเภทของแผน จุดแข็งอีกอย่างคือ ความต่อเนื่องและความแน่นอนในเรื่องของค่าใช้จ่ายประจำปีที่ช่วยให้วางแผนการเงินง่ายขึ้น
- บริการหลังการขายและช่องทางสมัครที่หลากหลาย: ปี 2025 หลายบริษัทมีช่องทางออนไลน์และบริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง เพื่อให้ง่ายต่อผู้สูงวัยหรือครอบครัวในการสอบถามหรือยื่นเคลมกรณีฉุกเฉิน
ตัวอย่างราคาเบี้ยประกันสุขภาพผู้สูงอายุปี 2025
แผน AIA SENIOR HAPPY (ทุนประกัน 200,000 บาท)
- อายุ 60 ปี: 16,790 บาท/ปี
- อายุ 65 ปี: 20,470 บาท/ปี
- อายุ 70 ปี: 25,530 บาท/ปี
หมายเหตุ: เบี้ยประกันขึ้นอยู่กับอายุผู้สมัครและทุนประกันที่เลือก ตัวเลขข้างต้นเป็นตัวอย่างอ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทในปัจจุบัน โปรดตรวจสอบราคาล่าสุดกับบริษัทโดยตรง
ข้อมูลแผนราคาประหยัดจากบริษัทต่าง ๆ
- ทุนประกัน 100,000–300,000 บาท เบี้ยเริ่มต้น 8,000–20,000 บาท/ปี (ขึ้นกับบริษัทและแผนที่เลือก)
- บางบริษัทมีแผนค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) หรือแผนคุ้มครองเฉพาะโรคทั่วไป ซึ่งราคาจะย่อมเยากว่า
- หากต้องการความคุ้มครองสูงขึ้นหรือคุ้มครองโรคร้ายแรงโดยเฉพาะ เบี้ยประกันจะสูงตามไปด้วย
ตัวอย่างแผนของ กรุงไทย-แอกซ่า สำหรับอายุ 65 ปี ทุนประกัน 150,000 บาท ค่าเบี้ยอยู่ที่ราว 12,000–18,000 บาท/ปี โดยขึ้นอยู่กับสุขภาพและเงื่อนไขโรคประจำตัว ส่วน เมืองไทยประกันชีวิต ก็มีแผน Health Care Senior ที่รับอายุสูงสุด 80 ปี ค่าเบี้ยเริ่มต้นหลักหมื่นต่อปีแต่ได้ความคุ้มครอง IPD และโรคประจำตัวบางโรค ทั้งนี้ควรเปรียบเทียบรายละเอียดและอ่านตารางผลประโยชน์อย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรพิจารณาในการเลือกประกันสุขภาพผู้สูงอายุ
- เปรียบเทียบจุดเด่นและรายละเอียดจากบริษัทต่าง ๆ: พิจารณาอายุรับประกัน ความครอบคลุมโรคประจำตัว เงื่อนไขการตรวจสุขภาพ ทุนประกัน และบริการเพิ่มเติมที่แต่ละบริษัทนำเสนอ ควรพิจารณาเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น เกณฑ์อนุมัติสำหรับผู้ที่เคยมีประวัติรักษาตัวนาน หรือมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคเดิม
- สอบถามเงื่อนไขความคุ้มครองโรคประจำตัวอย่างครบถ้วน: เช่น บางแห่งรับประกันโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพหรือตอบคำถามสุขภาพ ในขณะที่บางแผนอาจกำหนด waiting period (ระยะเวลารอคอย) 1-2 ปี หรือให้ผลประโยชน์ต่ำกว่าในระยะเริ่มต้น ต้องเช็กข้อยกเว้นและข้อจำกัดอย่างละเอียด เช่น หากเพิ่งได้รับการวินิจฉัยหรือมีอาการรุนแรง การขอรับประกันอาจต้องถูกพิจารณาเป็นกรณีไป
- สมัครเมื่ออายุยังไม่มาก: การสมัครในช่วงอายุที่น้อยกว่าจะได้รับเบี้ยที่เหมาะสมและโอกาสผ่านการพิจารณาสูงกว่าเมื่อเทียบกับช่วงอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2025 บริษัทประกันหลายแห่งยังคงกำหนดอายุแรกเข้าไม่เกิน 70 หรือ 75 ปีสำหรับแผนมาตรฐาน
- เลือกแผนประกันที่ตรงกับสุขภาพของตนเอง: สำหรับผู้มีโรคประจำตัวควรเลือกแผนที่มีเงื่อนไขระบุชัดในกรมธรรม์เกี่ยวกับการคุ้มครองโรคเดิม เช่น กำหนดวงเงินแยกสำหรับค่ารักษาโรคประจำตัว หรือเงื่อนไขเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายรายปีสำหรับการฟอกไต เคมีบำบัด ฯลฯ
- อ่านและศึกษาข้อกำหนดในกรมธรรม์ให้ครบถ้วน: เพื่อทราบถึงขอบเขตและข้อยกเว้นทั้งหมดก่อนตัดสินใจ เช่น ตรวจสอบว่าค่าห้อง ค่าแพทย์ตรวจรักษา รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้รับความคุ้มครองครบถ้วนหรือไม่ และมีข้อยกเว้นเฉพาะกรณีอะไรบ้าง
ข้อมูลความคุ้มครองทั่วไปที่พบในแผนยอดนิยม
- ความคุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยใน สูงสุดประมาณ 200,000–1,000,000 บาท/ปี แล้วแต่แผนและทุนที่เลือก
- ครอบคลุมโรคทั่วไป โรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ
- แผนส่วนใหญ่ให้การคุ้มครองต่อเนื่องจนถึงอายุ 80-90 ปี
- บางแผนมีมูลค่าเวนคืนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
- สามารถเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม (Rider) เช่น OPD หรือโรคร้ายแรงได้
หลายแผนมีเงื่อนไขการแบ่งจ่ายค่ารักษาตามเงินทุนประกันที่เลือก เช่น วงเงินสำหรับค่าห้อง ค่ายา ค่าแพทย์ตรวจรักษา หรือค่าใช้จ่ายอุปกรณ์พิเศษในโรงพยาบาล โดยทั่วไปแผนที่ราคาสูงจะให้วงเงินต่อครั้งหรือรายปีสูงกว่า สำหรับความคุ้มครองโรคประจำตัว ส่วนใหญ่จะมีชุดเงื่อนไขเฉพาะ เช่น คุ้มครองค่ารักษาเฉพาะกรณีตรวจพบหรือรับการรักษาหลังมีกรมธรรม์แล้ว หรือบางแผนระบุชัดว่ายกเว้นโรคที่เป็นมาก่อนการสมัคร ซึ่งในปี 2025 มีแนวโน้มบริษัทประกันให้ความยืดหยุ่นมากขึ้น
สำหรับแผนที่มีสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ควรขอหนังสือรับรองจากบริษัท ใช้ยื่นภาษีประจำปีได้ตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด เช่น เบี้ยประกันสุขภาพสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี (ข้อมูลปี 2025) สามารถจัดสรรเป็นค่าใช้จ่าย ลดหย่อนรายได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมจากเบี้ยประกันชีวิตปกติ
แนวโน้มตลาดประกันสุขภาพผู้สูงอายุไทย 2025
ตลาดในปี 2025 มีการแข่งขันและตัวเลือกมากขึ้น เช่น
- แผนคุ้มครองที่รวม IPD, OPD และคุ้มครองโรคร้ายแรงเริ่มได้รับความนิยม
- มีแพ็กเกจราคาประหยัดทุนประกันเริ่มต้นหลักแสนบาท
- เปิดโอกาสเลือกซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ตามต้องการ
- หลายผลิตภัณฑ์ขยายสิทธิ์และเพิ่มความยืดหยุ่นของเงื่อนไขการรับประกันโรคประจำตัว
- เน้นบริการสมัครที่สะดวกและใช้เอกสารน้อย ในบางแผนอาจไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ
ปัจจุบันนี้หลายบริษัทประกันเน้นการให้บริการแบบ “สมัครง่าย ได้รับกรมธรรม์เร็ว” และมีเครื่องมือเปรียบเทียบเบี้ยและสิทธิ์ออนไลน์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายในปี 2025 ไม่ว่าจะผ่านเว็บไซต์ของบริษัทโดยตรง หรือแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันชั้นนำ สะดวกกับผู้สูงอายุและครอบครัวที่ต้องการตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจ
คำแนะนำสำหรับผู้มีโรคประจำตัว
- สอบถามรายละเอียด waiting period และข้อยกเว้นต่างๆ กับบริษัท: เพื่อการวางแผนการใช้สิทธิประโยชน์ที่ตรงกับสถานการณ์ของตนเอง ได้แก่ ระยะเวลาการรอคอยสำหรับโรคที่มีมาก่อนการสมัคร (อาจอยู่ที่ 1-2 ปี แล้วแต่บริษัท)
- ตรวจสอบอัตราทุนประกันกับค่าเบี้ย: ให้แน่ใจว่าระดับของความคุ้มครองสอดคล้องกับความต้องการและความเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่น เลือกทุน 200,000 บาทขึ้นไป หากมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับฟอกไตหรือเคมีบำบัดที่ต้องใช้บ่อย
- เปรียบเทียบข้อมูลแต่ละบริษัทอย่างถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจ: เนื่องจากรายละเอียดส่วนใหญ่เกี่ยวกับการคุ้มครองโรคประจำตัวและเงื่อนไขประกอบอื่นๆ จะมีความต่างกันในแต่ละบริษัท ยิ่งในปี 2025 มีข้อเสนอใหม่มากขึ้นจึงควรเช็กรายละเอียดล่าสุดเป็นประจำ
อีกแนวทางหนึ่งคือการขอใบเสนอราคาจากหลายบริษัทพร้อมทั้งสอบถามตัวแทนให้เปรียบเทียบตารางผลประโยชน์และตัวอย่างเคลมที่ครอบคลุมโรคของตนเอง
ข้อเสนอแนะแบบสรุปสำหรับผู้สูงวัยและครอบครัวในปี 2025
- ศึกษาและเปรียบเทียบเบี้ย ทุนประกัน อายุรับสมัคร รายละเอียดความคุ้มครองโรคประจำตัว และข้อยกเว้นต่างๆ จากบริษัทหลักๆ อย่างละเอียด
- ควรพิจารณาการสมัครประกันสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อโอกาสได้รับเบี้ยที่เหมาะสมและความคุ้มครองที่ตรงความต้องการ
- หากมีโรคประจำตัว ควรสอบถามตัวแทนเกี่ยวกับเงื่อนไข ระยะเวลารอคอย และขั้นตอนการเคลม รวมถึงสิทธิการสมัครแผนที่ตรงกับสถานะสุขภาพของตนเอง
- ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์และแผนประกันสุขภาพจากแต่ละบริษัทอย่างต่อเนื่องเพื่อดูรายละเอียดล่าสุด
- สำหรับความต้องการทางเลือกแผนพิเศษหรือต้องการข้อมูลทุนประกันที่เฉพาะเจาะจง แนะนำให้ติดต่อบริษัทประกันหรือขอใบเสนอราคาจากตัวแทนโดยตรง
การเลือกประกันสุขภาพที่ดีในปี 2025 ไม่เพียงคำนึงถึงค่าเบี้ยหรือความคุ้มครองที่ครอบคลุมโรคประจำตัว แต่ควรดูทั้งบริการหลังการขาย ความสะดวกในกระบวนการเคลม และช่องทางติดต่อสื่อสาร รวมทั้งตรวจสอบข้อเสนอใหม่ๆ ที่แต่ละบริษัทสรรหามาแข่งขันกัน ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมรับสิทธิพิเศษ การตรวจสุขภาพฟรี หรือส่วนลดค่าเบี้ยในปีต่อไป
วิธีการใช้งานกรมธรรม์ประกันสุขภาพผู้สูงอายุให้เกิดประโยชน์สูงสุดในปี 2025
หนึ่งในคำถามที่มักเกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุหรือครอบครัวคือ เมื่อได้ประกันสุขภาพแล้ว จะใช้สิทธิได้อย่างไรในสถานการณ์จริงปี 2025 และมีจุดใดที่ควรระวังเพื่อป้องกันการเคลมถูกปฏิเสธ ข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงล่าสุดเน้นย้ำว่าการ “ทำความเข้าใจขั้นตอนการเคลมและเงื่อนไขกรมธรรม์” เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือสุขภาพไม่สมบูรณ์ ควรตรวจสอบสิทธิประโยชน์ที่ระบุไว้ เช่น การรักษาในฐานะผู้ป่วยใน (IPD) ณ โรงพยาบาลคู่สัญญา สามารถใช้บัตรแสดงสิทธิของบริษัทประกันเบิกค่ารักษาโดยตรงโดยไม่ต้องสำรองจ่าย หรือบางแผน อนุญาตให้เบิกค่ารักษาผู้ป่วยนอก (OPD) ได้ในวงเงินที่กำหนด
แนะนำให้ผู้สูงอายุและญาติพกพา “บัตรกรมธรรม์ประกันสุขภาพ” หรือบันทึกเลขที่กรมธรรม์และเบอร์ติดต่อฉุกเฉินของบริษัทประกันไว้เสมอ หากต้องนำส่งโรงพยาบาลควรแจ้งการมีประกันตั้งแต่เริ่มลงทะเบียน และยื่นบัตรเพื่อให้โรงพยาบาลตรวจสอบเงื่อนไข กรณีโรงพยาบาลไม่ใช่คู่สัญญา อาจต้องสำรองจ่ายก่อนแล้วนำใบเสร็จและเอกสารการแพทย์กลับมาเคลมกับบริษัทประกันภายหลัง ซึ่งในปี 2025 หลายบริษัทประกันได้พัฒนาแอปพลิเคชันหรือช่องทางออนไลน์เพื่ออัปโหลดเอกสารเคลมลดความยุ่งยากลง อีกทั้งยังมีบริการสายด่วนสุขภาพหรือให้คำปรึกษาพิเศษจากแพทย์ประจำสาย รวมถึงการส่งเจ้าหน้าที่เคลมเข้าไปช่วยเหลือในกรณีที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อควรระวังสำคัญคือ การอ่านข้อยกเว้น เช่น หากยังอยู่ในช่วง waiting period (ระยะเวลารอคอย) หรือการรักษาไม่ตรงกับโรคที่ระบุในความคุ้มครอง อาจโดนปฏิเสธสิทธิการเคลมได้ รวมถึงเอกสารประกอบเช่น หนังสือรับรองแพทย์และใบเสร็จรับเงินต้องครบถ้วน การขอรับเงินลดหย่อนภาษีเบี้ยประกันสุขภาพสำหรับปี 2025 ผู้เอาประกันควรขอหนังสือรับรองจากบริษัทและเก็บแนบเอกสารภาษีให้ครบถ้วน สำหรับทายาทหรือผู้ดูแลที่ดูแลผู้สูงอายุ ควรศึกษาเงื่อนไขและข้อปฏิบัติต่างๆ ล่วงหน้า รวมถึงกรณีใช้สิทธิในต่างจังหวัดหรือต่างประเทศว่าบริษัทประกันมีเครือข่ายหรือบริการลูกค้าระหว่างประเทศหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าสิทธิประโยชน์ของกรมธรรม์จะใช้ได้เต็มที่ ไม่เสียโอกาส และลดภาระค่าใช้จ่ายฉุกเฉินในปี 2025 ได้จริง
หมายเหตุ: ข้อมูลด้านการเปรียบเทียบรายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับการเคลมคุ้มครองโรคประจำตัวและเงื่อนไขเฉพาะของแต่ละผลิตภัณฑ์ในปี 2025 ควรสอบถามกับแต่ละบริษัทโดยตรง เพื่อความถูกต้องและความตรงกับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล
แหล่งอ้างอิง
- https://th.my-best.com/36501
- https://www.tnnthailand.com/tnnexclusive/104394/
- https://aiayourgift.com/aia-senior-happy/
การยกเว้นความรับผิดชอบ: เนื้อหาทั้งหมด รวมถึงข้อความ กราฟิก รูปภาพ และข้อมูลที่มีอยู่ในหรือสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ข้อมูลและวัสดุที่มีอยู่ในหน้านี้ รวมถึงข้อกำหนด เงื่อนไขและคำอธิบายที่ปรากฏอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า.