บ้านยึดธนาคารปี 2568 ราคาถูกกว่าตลาด 30% ซื้อได้ตรงไม่ผ่านนายหน้า
รู้หรือไม่ว่า บ้านยึดธนาคารมือสองในปี 2568 ราคาเฉลี่ยถูกกว่าปกติถึง 30% และยังสามารถซื้อโดยตรงไม่ผ่านนายหน้าได้อีกด้วย สำหรับคนอยากมีบ้านราคาประหยัด การเจรจาต่อรองกับธนาคารคือเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยประหยัดและลดปัญหาเมื่อต้องตัดสินใจซื้อจริงในอนาคตอย่างมั่นใจ
ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาบ้านยึดธนาคารต่ำกว่าราคาขายทั่วไป
บ้านยึดธนาคาร หรือที่เรียกว่าทรัพย์ NPA (Non-Performing Assets) คือทรัพย์สินที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ครบถ้วน ธนาคารจึงดำเนินการขายบ้านเหล่านี้ในราคาที่ช่วงเพื่อช่วยลดภาระสินทรัพย์ค้างในงบดุล โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาบ้านยึดธนาคารถูกกว่าตลาดได้แก่
- ราคาขายเริ่มต้นต่ำกว่า 30% จากราคาตลาด: ธนาคารตั้งราคาขายเบื้องต้นต่ำกว่าราคาตลาดเพื่อกระตุ้นการขายและลดระยะเวลาที่บ้านอยู่ในทรัพย์สินของธนาคาร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อธนาคารที่ต้องการหมุนเวียนทรัพย์สินได้เร็ว รวมทั้งช่วยลดภาระค่าบำรุงรักษาทรัพย์สินด้วย
- มีโอกาสเจรจาต่อรองราคา: ผู้ซื้อบ้านสามารถสอบถามและเจรจาราคากับธนาคารได้ ขึ้นอยู่กับสภาพทรัพย์และเวลาที่บ้านถูกประกาศขาย โดยบางครั้งธนาคารอาจเสนอส่วนลดเพิ่มหรือของแถมในกรณีที่บ้านขายไม่ออกในช่วงเวลาหนึ่ง
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้า: การซื้อผ่านธนาคารโดยตรงมักไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของนายหน้าซึ่งโดยทั่วไปคิดประมาณ 3% ของราคาขายบ้าน ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและทำให้ราคาสุทธิที่ผู้ซื้อจ่ายน้อยลง
- สินเชื่อเงื่อนไขพิเศษจากธนาคารบางแห่ง: บางธนาคารเสนอดอกเบี้ยสินเชื่อสำหรับบ้านยึดในอัตราพิเศษที่ต่ำกว่าปกติ โดยมักจะมีข้อเสนอระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมลดหย่อน เพื่อจูงใจให้ผู้ซื้อยอมรับและเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้นในปี 2568 นี้
ตัวอย่างเช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้เพิ่มโครงการสินเชื่อบ้านมือสองเพื่อรองรับลูกค้าที่สนใจซื้อบ้านยึด โดยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นไม่เกิน 3% ต่อปีในช่วง 2 ปีแรก หรือบางธนาคารมีเงื่อนไขผ่อนชำระพิเศษที่ยืดหยุ่นกว่า
วิธีตรวจสอบและค้นหาข้อมูลบ้านยึดธนาคารในปี 2568
ในปี 2568 ธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้นำเสนอข้อมูลทรัพย์สินบ้านยึดผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้สนใจสามารถเข้าถึงรายละเอียดได้สะดวก ตัวอย่างขั้นตอนในการตรวจสอบมีดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ธนาคารและธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่มีประกาศขายบ้านยึดพร้อมข้อมูลที่ชัดเจนและรายละเอียดราคาที่เปิดเผย โดยเว็บไซต์มักจะมีช่องค้นหาทรัพย์สินแยกตามจังหวัด ราคา และประเภทบ้าน เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อสามารถเลือกที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
- ใช้แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ เช่น DDproperty หรือเว็บไซต์กรมบังคับคดี ที่มีการอัปเดตราคาบ้านยึดและข้อมูลทรัพย์สินอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้บางเว็บไซต์ยังมีฟังก์ชันให้ท่านลงทะเบียนแจ้งเตือนทรัพย์ที่ตรงตามความต้องการ ช่วยให้ไม่พลาดโอกาสซื้อบ้านราคาดี
- ตรวจสอบรายละเอียดสภาพทรัพย์สิน ระยะเวลาที่บ้านเปิดขาย รวมถึงการดำเนินการซื้อขาย เช่น ประมูลหรือขายตรง เพื่อวางแผนการซื้อที่เหมาะสม บ้านบางหลังที่อยู่ในขั้นตอนประมูลอาจมีราคาถูกกว่าปกติ แต่ต้องเตรียมงบประมาณรวมถึงทรัพย์สำรองให้ดี
- ติดต่อธนาคารโดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ตรวจสอบเงื่อนไข และเจรจาการซื้อขาย รวมถึงรายละเอียดสินเชื่อและวิธีการชำระเงินที่สอดคล้องกับความต้องการ โดยในปี 2568 ธนาคารหลายแห่งได้จัดตั้งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำการซื้อ-ขายบ้านยึด เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบคำถามผู้ซื้อได้อย่างครบถ้วน
ขั้นตอนและเรื่องที่ควรทราบเมื่อซื้อบ้านยึดธนาคารโดยไม่ผ่านนายหน้า
การซื้อบ้านยึดธนาคารโดยตรงมีขั้นตอนและประเด็นที่ควรพิจารณาเพื่อช่วยให้การซื้อเป็นไปอย่างราบรื่นและเข้าใจข้อกำหนดต่าง ๆ ชัดเจน ดังนี้
- ตรวจสอบสภาพบ้านและทรัพย์สินอย่างครบถ้วน: บ้านยึดมักขายตามสภาพจริง อาจมีการชำรุดหรือไม่ได้ดูแลก่อนหน้า ดังนั้นควรตรวจสอบสภาพบ้านและสิ่งแวดล้อมโดยละเอียดก่อนตัดสินใจ โดยอาจขอเข้าชมบ้านจริงและนำช่างหรือผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมตรวจสอบ เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายซ่อมแซมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
- ทำความเข้าใจเงื่อนไขการซื้อขาย: เรียนรู้ขั้นตอนการซื้อขาย เช่น การวางเงินมัดจำ วิธีการชำระเงินงวดแรก ระยะเวลาการชำระเงินที่เหลือ และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่ธนาคารตั้งไว้ ในบางกรณี ธนาคารอาจกำหนดระยะเวลาที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น วันสิ้นสุดการชำระเงินงวดสุดท้าย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกยกเลิกข้อตกลง
- สอบถามสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยพิเศษ: สำหรับคนที่ต้องการสินเชื่อบ้าน สามารถสอบถามโปรโมชั่นสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษกับธนาคารที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินภาระผ่อนชำระ และเปรียบเทียบกับสินเชื่อบ้านทั่วไปได้ เช่น ในปี 2568 หลายธนาคารได้เสนอสินเชื่อบ้านมือสองที่ผ่อนชำระได้นานถึง 30 ปี และมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวต่ำในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว
- ติดตามขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง: คำนวณค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าธรรมเนียมการโอน รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบมาตรการลดค่าธรรมเนียมในปัจจุบัน เช่น ในปี 2568 รัฐบาลได้ขยายมาตรการลดค่าโอนสำหรับบ้านมือสองบางประเภท เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหา ทำให้ผู้ซื้อลดต้นทุนขั้นสุดท้ายได้มากขึ้น
- เตรียมเอกสารและนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ที่ดิน: เมื่อทำสัญญาซื้อขายเรียบร้อยแล้ว ควรเตรียมเอกสารต่าง ๆ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน เงินค่าธรรมเนียม พร้อมนัดหมายวันโอนกรรมสิทธิ์กับเจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันปัญหาหรือความล่าช้าในขั้นตอนโอนกรรมสิทธิ์
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองในปี 2568 และแนวโน้ม
ตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 โดยบ้านยึดธนาคารมีจำนวนมากกว่า 3 แสนยูนิตในปี 2567 รวมทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมในทำเลต่าง ๆ ตั้งแต่ในเมืองจนถึงพื้นที่ชานเมือง ส่งผลให้กลุ่มผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้นและโอกาสได้บ้านราคาถูกคู่กับทำเลที่ดีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สำหรับแนวโน้มในปี 2568 ตลาดบ้านมือสองยังคงได้รับความนิยมเนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่ยังอยู่ในระดับน่าสนใจ ขณะที่ตลาดบ้านมือใหม่อาจมีราคาสูงและข้อจำกัดทางการเงินมากขึ้น นั่นจึงทำให้บ้านยึดธนาคารเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบจำกัดหรือมองหาการลงทุนระยะยาว นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีนโยบายสนับสนุนและมาตรการลดหย่อนภาษีต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองในปี 2025 อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อควรติดตามข่าวสารและข้อมูลราคาที่เป็นปัจจุบัน เพราะราคาบ้านมือสองอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพเศรษฐกิจและนโยบายสินเชื่อของแต่ละธนาคาร รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ยังมีผลกระทบในบางพื้นที่ จึงแนะนำให้ใช้เวลาศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ
เทรนด์และโอกาสลงทุนในตลาดบ้านมือสองปี 2568: จากบ้านมือสองสู่ธุรกิจรีโนเวตและเช่าเพื่อซื้อ
นอกเหนือจากการซื้อเพื่ออยู่อาศัยแล้ว ปี 2568 ตลาดบ้านมือสองโดยเฉพาะทรัพย์สินที่ยึดจากธนาคาร ยังเปิดโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ เช่น การซื้อบ้านมือสองเพื่อรีโนเวตและขายต่อ หรือทำโครงการเช่าเพื่อซื้อ (Rent-to-Own) ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้
ธุรกิจรีโนเวตบ้านมือสองเป็นรูปแบบที่สะท้อนถึงโอกาสทำกำไรประมาณ 10-15% ต่อยูนิต ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มนายหน้าและสถาปนิก จะซื้อบ้านมือสองในทำเลที่ดี แต่มีสภาพเก่าหรือทรุดโทรมเล็กน้อย แล้วลงมือปรับปรุงใหม่ให้บ้านมีราคาขายสูงขึ้น เช่น การเปลี่ยนวัสดุก่อสร้าง ตกแต่งภายใน และปรับภูมิทัศน์ ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากกว่าบ้านใหม่บางโครงการในช่วงเวลานี้ นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจมือใหม่ยังสามารถใช้สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษสำหรับบ้านมือสองเป็นต้นทุนเสริม ทำให้ดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้เงินสดก้อนใหญ่
ส่วนโมเดล “เช่าเพื่อซื้อ” ที่กำลังเติบโตในปี 2568 เป็นทางเลือกที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนหรือกลุ่มวัยเริ่มต้นทำงานที่มีปัญหาเรื่องเงินดาวน์และต้องการทางเลือกทางการเงินที่คล่องตัวมากขึ้น โครงการในลักษณะนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เช่าสามารถสะสมเงินดาวน์ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเจ้าของบ้าน โดยได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารที่มีเงื่อนไขผ่อนชำระนิ่มนวลและดอกเบี้ยต่ำในช่วงแรก ๆ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินและเพิ่มโอกาสเป็นเจ้าของบ้านจริงได้ง่ายขึ้น
ทั้งสองแนวทางธุรกิจนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองในปี 2568 ที่ไม่ใช่แค่ทางเลือกสำหรับผู้ซื้อทั่วไปเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนรายย่อยและผู้ประกอบการขนาดเล็กในการสร้างรายได้และขยายธุรกิจอสังหาฯ อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการเติบโตของจำนวนทรัพย์สินคงค้างในมือธนาคารกว่า 2 แสนยูนิตที่ยังรอการระบายในช่วง 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ตลาดนี้ยังถูกขับเคลื่อนด้วยมาตรการลดค่าโอนและภาษี 0.01% ช่วยให้ต้นทุนในการซื้อขายลดลงมากกว่าระบบเดิม ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ตลาดบ้านมือสองในปี 2568 มีอนาคตสดใสและเหมาะแก่การลงทุนมากขึ้น
- บ้านยึดธนาคารในปี 2568 ราคาขายต่ำกว่าราคาตลาดประมาณ 30% ขึ้นอยู่กับสภาพและเงื่อนไขของแต่ละทรัพย์
- การซื้อบ้านยึดจากธนาคารโดยตรงช่วยลดต้นทุนในส่วนของค่าคอมมิชชั่นหรือค่านายหน้า ซึ่งโดยทั่วไปคิดเป็นประมาณ 3% ของราคาบ้าน
- ธนาคารบางแห่งมีสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่สนับสนุนผู้ซื้อบ้านยึด แต่ผู้ซื้อควรตรวจสอบรายละเอียดกับธนาคารโดยตรง
- มีตัวเลือกบ้านยึดมือสองจำนวนมากในหลากหลายทำเลที่เหมาะกับความต้องการที่อยู่อาศัยหรือการลงทุน
- การตรวจสอบข้อมูลบ้านและเงื่อนไขการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์และธนาคารโดยตรงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลครบถ้วน
- ควรตรวจสอบสภาพทรัพย์สินและเงื่อนไขการซื้อขายอย่างละเอียด รวมถึงวางแผนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการโอนกรรมสิทธิ์และซ่อมแซมบ้าน
- การติดตามแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 และการเลือกใช้สินเชื่อที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การซื้อบ้านยึดธนาคารเป็นไปอย่างคุ้มค่าและปลอดภัย
- ตลาดบ้านมือสองในปี 2568 ยังเปิดโอกาสทางธุรกิจรีโนเวตบ้านมือสอง และโมเดลเช่าเพื่อซื้อที่ตอบโจทย์ลูกค้าและนักลงทุนรายย่อยอย่างชัดเจน
การเลือกซื้อบ้านยึดธนาคารในปี 2568 เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและต้องการบ้านราคาประหยัด โดยควรเน้นการศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขการซื้อขายอย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ได้อย่างเหมาะสมและมีความปลอดภัยในทรัพย์สินที่ซื้อ
แหล่งที่มา
- ตลาดบ้านมือสอง โตแซงบ้านใหม่ ทำเลเป็นต่อ แบงก์ให้กู้ง่าย นายหน้า-มนุษย์เงินเดือน แห่ลงทุน (มติชน)
- อัปเดตค่านายหน้าซื้อ-ขายอสังหาฯ ปี 2568 (DDproperty)
- ส่องทิศทางอสังหา 2568! ตลาดบนรอดปลอดภัย แต่ ‘บ้านล้านต้น’ ส่อวิกฤต (The Standard)
การยกเว้นความรับผิดชอบ: เนื้อหาทั้งหมด รวมถึงข้อความ กราฟิก รูปภาพ และข้อมูลที่มีอยู่ในหรือสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ข้อมูลและวัสดุที่มีอยู่ในหน้านี้ รวมถึงข้อกำหนด เงื่อนไขและคำอธิบายที่ปรากฏอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า.